part 2 แรกๆไม่คาดหวังเลยเพราะเห็นคริสกับซันนี่เล่นละคร หนัง พิธีกร(คริส)มาแล้ว พอจะเดาทางว่าคาแรคเตอร์น่าจะเป็นแบบไหน part นี้เป็น part ที่เราคิดว่าคงงั้นๆมากสุด แต่กลับเป็น part ที่เห็นคริสกับซันนี่ปล่อยของแบบไม่ยั้ง เรื่องดำเนินมาระยะนึงจากที่มั่นใจแน่ๆในตอนแรกว่าจะต้องลงเอยแบบนี้กลายเป็นไม่ค่อยมั่นใจ หลายอารมณ์สลับไปสลับมาชวนลุ้นว่าสุดท้ายที่คิดว่าจะจบแบบนี้ตกลงใช่หรือเปล่า ช่วงจบ จบแบบผิดคาดไปนิดเดียว แต่กลับชอบและประทับใจเยอะ
part 3 เป็น part ที่ดูเนิบๆช่วงแรก แม้จะเจอนิชคุณก็เหอะ แต่พอกลางๆกระชากอารมณ์ไปเลยจากคุณสู่ขวัญ แล้วการสอดแทรกสัญลักษณ์ต่างๆใน part นี้เยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ รู้นะว่ามีเยอะ แต่มันดูไม่ทันหลายจุด แล้วก็เป็น part ที่วนเวียนในหัวเรามากที่สุดถึงตอนนั่งพิมพ์อยู่นี่(วนเวียนแบบเออแฮะ ตอนนั้นหมายถึงแบบนี้ ตอนนี้หมายถึงอย่างโน้นเวลาเห็นกระทู้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้) เข้าใจเหตุผลหลายๆอย่างว่าทำไมต้องนิชคุณ ทำไมต้องคุณสู่ขวัญ ทำไมเนื้อเรื่องมันโยงกันในลักษณะนี้ เป็น part ที่เหมือนจะไม่มีอะไรแต่มีอะไรเยอะ และทำให้รู้สึกซาบซึ้งโดยไม่ต้องให้พระเอกนางเอกมีซีนบิ้วท์อารมณ์คนดูเยอะๆ(พอจะนึกออกมั้ย)
จริงๆตอนไปดูไม่คาดหวังอะไรเลย กำลังเครียดๆเซ็งๆ เห็นหนังเข้าโรงวันแรกก็เลยเข้าไปดูซะหน่อย อีกอย่าง ฝนข้างนอกก็ตกๆอยู่ ดีกว่าอยู่ว่างๆ ส่วนหนังอื่นสำหรับเราเฉยๆ จริงๆมีแบทแมนอีกเรื่องท้าชิง แต่ด้วยความที่เรื่องนี้ดูไม่น่าจะหนักสมอง ชวนลุ้นมาก เลยเลือกดู
ตอบลบพอเข้าไปดู
part แรก ยังเฉยๆ จริงๆต้องบอกว่าน้องเก้าเล่น suckseed ได้ถึงอารมณ์กว่านี้นะไม่ว่าจะตอนไหน โดยเฉพาะช่วงดราม่า แต่เรื่อง 14 ไม่สุดง่ะ ยังไงก็เอาใจช่วยในหนังเรื่องต่อไปที่จะเล่นนะ
part 2 แรกๆไม่คาดหวังเลยเพราะเห็นคริสกับซันนี่เล่นละคร หนัง พิธีกร(คริส)มาแล้ว พอจะเดาทางว่าคาแรคเตอร์น่าจะเป็นแบบไหน part นี้เป็น part ที่เราคิดว่าคงงั้นๆมากสุด แต่กลับเป็น part ที่เห็นคริสกับซันนี่ปล่อยของแบบไม่ยั้ง เรื่องดำเนินมาระยะนึงจากที่มั่นใจแน่ๆในตอนแรกว่าจะต้องลงเอยแบบนี้กลายเป็นไม่ค่อยมั่นใจ หลายอารมณ์สลับไปสลับมาชวนลุ้นว่าสุดท้ายที่คิดว่าจะจบแบบนี้ตกลงใช่หรือเปล่า ช่วงจบ จบแบบผิดคาดไปนิดเดียว แต่กลับชอบและประทับใจเยอะ
part 3 เป็น part ที่ดูเนิบๆช่วงแรก แม้จะเจอนิชคุณก็เหอะ แต่พอกลางๆกระชากอารมณ์ไปเลยจากคุณสู่ขวัญ แล้วการสอดแทรกสัญลักษณ์ต่างๆใน part นี้เยอะมากๆๆๆๆๆๆๆ รู้นะว่ามีเยอะ แต่มันดูไม่ทันหลายจุด แล้วก็เป็น part ที่วนเวียนในหัวเรามากที่สุดถึงตอนนั่งพิมพ์อยู่นี่(วนเวียนแบบเออแฮะ ตอนนั้นหมายถึงแบบนี้ ตอนนี้หมายถึงอย่างโน้นเวลาเห็นกระทู้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้) เข้าใจเหตุผลหลายๆอย่างว่าทำไมต้องนิชคุณ ทำไมต้องคุณสู่ขวัญ ทำไมเนื้อเรื่องมันโยงกันในลักษณะนี้ เป็น part ที่เหมือนจะไม่มีอะไรแต่มีอะไรเยอะ และทำให้รู้สึกซาบซึ้งโดยไม่ต้องให้พระเอกนางเอกมีซีนบิ้วท์อารมณ์คนดูเยอะๆ(พอจะนึกออกมั้ย)
เราชอบตอนที่3มากค่ะ ได้พลังจากตอนนี้มาก
ตอบลบซันนี่คริสนิชคุณแสดงดีมาก จะดูอีกหลายรอบก็เพราะสามคนนี้แหละ
ตอบลบที่ประทับใจที่สุดคือ องค์ประกอบศิลป์จ้า ถือซะว่าเป็นแฟน GTH เข้าไปดูภาพในหนังสวยๆ เพราะเป็นค่ายที่ดีที่สุดในไทยตอนนี้ ภาพสวยมากๆๆๆๆๆ
ตอบลบชอบเท่านี้จิงๆนะคะ
อยากบอกแค่ว่า อยากให้เมืองไทยมีหนังอย่าง ตอน 42.195 มานานแล้ว
ตอบลบชอบตอนนี้มากๆ อิ่มมากๆ ส่วนตัวดูหนังได้ทุกแนว แต่ถ้าให้ได้ใจจริงๆ
คือหนังที่ให้พลังใจกับคนดู พร้อมเสียงหัวเราะ เคล้าน้ำตาแบบนี้แหละ
และเข้าใจเลยว่าทำไม พี่เก้งถึงต้องเลือกตัวเอกเป็น นิชคุณและคุณสู่ขวัญ เหมาะมากค่ะ : )
เป็นแฟนจีทีเอช แล้วก็หวังไว้กับเรื่องนี้สูง
ตอบลบผิดหวังเล็กๆ แต่โดยรวมก็คุ้มค่าตั๋วนะครับ ไปดูกันได้
ตั้งใจไปดูพาร์ทซันนี่กับคริส เพราะแค่ตัวอย่างก็ บีบอารมณ์แล้ว
สำหรับเรา เราว่าพาร์ทนี้ทำไม่สุด เราไม่ซึ้งตามเลย ดูเร่งๆรวบๆด้วย เลยไม่อิน
ชอบพาร์ทสามสุด ภาษาสวย เรื่องดี บทพูดยังเท่อ่ะ
นักแสดงเล่นดีทุกคนเลย แม้กระทั่งบทเล็กๆอย่างแม่คุณสู่ขวัีญ เราว่าก็เล่นเหมาะสมกันดี
ตอนแรก 14 หนัง GTH แน่ (ปวดฉี่ตั้งแต่วิ่งเข้าโรงหนังและ T_T)
ตอบลบตอนสอง 21/28 อืมก็ไม่ฉีกมาก แต่ก็แฝงด้วยความ "ลึก นิดๆ" (รู้สึกว่าเริ่มหายปวดฉี่ทันที 555) ชอบมากๆ
ตอนสาม 42.195 โอ้วววววว เซอร์ไพรส์!!! "ลึก" ได้อารมณ์ แบบว่าอยากให้เรื่องนี้ยาวไปอีกซักชม. ยอมอั้นฉี่อ่ะ ชอบมากกกกก
จะบอกว่าหนังเค้าดีจริงๆ ถึงตอนนี้ยังอยากกลับไปดูรอบสองเลย ตอนที่จำได้เยอะสุดก็คงเป็นตอนสาม ไม่ใช่แค่นิชคุณ แต่อยากไปตอกย้ำอะไรบางอย่างให้แน่ใจ ขอเก็บรายละเอียดให้ครบในตอนสามนิดนึง
ตอน 3 เนื้อหามันมีอะไรให้เล่นเยอะ เวลาที่น้อยเกินไป
ตอบลบพี่เก้งเลยใช่เสียงบรรยายเข้ามาช่วยปูเรื่อง (ความคิดเห็นส่วนตัว)
แต่ผมว่าเป็นทางออกที่ง่ายเกินไป
ถ้ามีเวลาให้ตอน 3 มากกว่านี้ผมว่าจะดีมากๆ
หนังมันมีปมนั่นนี่ให้พูดถึงมากมาย เสียดายจริงๆ
โดยส่วนตัวก็เฉยๆนะ เหมือนกับว่ามันยังไม่สุด
ตอบลบแต่ก็ให้ข้อคิดได้หลายเรื่องเหมือนกัน
part 3 เราว่าไม่มีเสียงบรรยายน่าจะดีกว่า
เพราะตัวละครก็แสดงออกทางความรู้สึกได้ดีอยู่แล้ว
กลับมาบ้านยัง อินกับ คุณสู่ขวัญแล้วก็นิชคุณอยู่เลย
ตอบลบดูแล้ว รู้สึกว่า part นี่แหละ โดนสุด
ชอบเรื่องนี้ครับ ชอบหมดทั้งสามตอน ตอนแรกน้องปันปันน่ารักมาก ตอนที่สองเป็นหนังรักสไตล์GTHในแบบที่ชอบอยู่แล้ว ตอนที่สามนี่ชอบที่สุด ได้พลังได้แง่คิดจากการดู บางทีผมว่ามันขึ้นอยู่กับความคาดหวังกับวัยด้วยมั๊งครับที่จะทำให้เราประทับใจหนังเรื่องนี้กันแค่ไหน
ตอบลบเรื่องดีมันดีมากกกกกก....
ตอบลบมากเกินกว่าจะบรรยายได้หมด
ตอนสามทำให้แฟนผมที่นอนขี้เซา ชวนผมออกไปวิ่งตอนเช้าก่อนไปทำงาน อิอิ
ชอบตอน 3 เหมือนกันค่ะ ดูแล้วเหมือนได้รับพลังอะไรสักอย่างมา
ตอบลบ[spoil] Review รัก 7 ปี ดี 7 หน : มันไม่ใช่หนังย่อย ๆ 3 เรื่อง แต่มันคือหนังยาวเรื่องเดียว ...........
ตอบลบดาวมฤตยูโคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 7 ปี ดังนั้นชีวิตคนเราจึงพบปะความพลิกผันครั้งใหญ่ในทุก 7 ปีเช่นกัน
7 ปีแรก เราติดพ่อติดแม่ บ้านคือโรงที่กว้างใหญ่ที่สุด พ่อแม่ คือเพื่อน คือคนที่เรารักที่สุด แต่เมื่อเรา 7 ขวบ
เราเริ่มได้รู้จักสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เรียกว่าเพื่อน ........[หยิบหนังแฟนฉันมานั่งดู ช่วงชิวิตอายุ 7 ปี]
14 วัยรุ่น วัยแห่งพลัง วัยแห่งการสร้างสรรค์ แต่ลึก ๆ แล้ว เป็นวัยแห่งการยอมรับ เชื่อเถอะว่า ในวัยนี้ทุกคนมี
วีรกรรมบ้า ๆ เพี้ยน ๆ เฮไหน เฮนั่น กับเพื่อน ๆ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเพื่อนสำคัญที่สุดในตอนนี้
ยิ่งเด่น ยิ่งดัง ยิ่งเป็นที่รู้จัก เป็นตัวฮา เป็นตัวเท่ห์ของกลุ่ม มันช่างน่าดีใจ และภูมิใจ ..... แต่ทว่านอกจากเพื่อนแล้ว
ยังมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า แฟน .... รักครั้งแรกเข้ามาในชีวิตด้วย .... ระหว่างเพื่อน [ไม่ว่าจะออนไลน์ หรือ offline]
กับ แฟน .... ปัญหาโลกแตก ที่ว่าควรจะเลือกอะไรดี ..... ยิ่งวัยรุ่น 14 สมัยนี้ เพื่อน digital และโลกออนไลน์
มันกว้างใหญ่ไพศาล ดังเร็ว เด่นเร็ว แต่หากพลาดการผิดพลาดนั้น ก็กระจายได้เร็ว และลบล้างได้ยาก
........ ระหว่างคนข้างกาย กับ เพื่อนในโลกดิจิตอล ทางเลือกที่ยากของเด็กรุ่นใหม่ .........
21 เรียนจบใหม่ ๆ เริ่มเข้าสู่สังคมการงาน และบางคน เริ่มมีแฟนแบบจริง ๆ จัง ๆ ครั้งแรก
บางคน แต่งงาน และในสมัยปัจจุบัน บางคนเริ่มจะอยู่กันก่อนแต่งมากขึ้น หน้าที่การงาน ความชอบ
และการแสวงหาตัวตน หาสิ่งที่ชอบ เพื่อนไม่ได้จำเป็นมาก ที่สิ่งที่จำเป็นคือ เราคือใคร และกำลังชอบอะไร
บางคนเลือกจะเที่ยวต่างประเทศ บางคนเลือกจะลองเปลี่ยนงาน และบางคนเลือกจะลองเปลี่ยนแฟน
ทำไมละ ? ชีวิตมันมีทางให้เราเลือกไม่ใช่หรือ ?
28 ถึงเวลาที่ต้องโตเสียที หมดเวลากับการลองผิดลองถูกแล้ว หากจะมองย้อนกลับไป มีบางเรื่องที่เสียใจ
และก็มีบางเรื่องให้อมยิ้มในชีวิต ....... 28 คงยังไม่สายเกินไป ถ้าจะตัดสินใจเลือกชีวิต จะมีชีวิตใหม่
จะตั้งหลักชีวิตและก้าวไป หรือ จะขอกลับไปแก้ไขอะไรในอดีตอีกสักที มันก็คุ้มค่าที่จะลองไม่ใช่หรือ ?
35 [ปีศาจร้ายที่คอยถามว่า แกทำบ้าอะไร อายุเท่านั้นแกมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือยัง
ชีวิตแบบนี้แกมีความสุขหรือ ใครใช้ให้แกตะเกียกตะกาย ......]
42 ชิวิตเดินทางมาถึงกลางคนแล้ว บางคนก็แหน็บแนมว่าออกจะปลายๆ แล้วหรือเปล่า ชีวิตมีหน้าที่การงาน
มีครอบครัวที่น่ารัก ตามอัตภาพ ของชีวิตคนทั่วไป ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข .......... หากแต่ว่าชีวิตมันไม่ได้เรียบง่ายแบบนั้น
ถ้าทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด เช่น ตกงาน หรือเลิกรา หรือ เกิดเรื่องน่าเศร้าบางประการ
อายุ 42 ปี มันยังเริ่มใหม่ได้หรือ ? ชีวิตมันจะเดินต่อไปยังไง ......... มันไม่ง่ายที่จะเริ่มใหม่ ...
หากไม่มีกำลังใจที่เข้มเข็ง แต่สุดท้ายแล้ว อายุ ก็เป็นเพียงตัวเลข ความสุขชั่วนิรันด์ และความทุกข์ตลอดกาลนั้นไม่มีจริง
หน้าที่ของเราคือ เรายังใช้ชีวิตต่อไป และต้องใช้ชีวิตต่อไป อย่างมีความสุขและมีคุณค่า
อย่าไปมองอนาคตมันแสนไกลให้มันท้อ เราใช้ชีวิตทุกวันให้มีความสุขก็เพียงพอ
หนังยาว 1 เรื่อง พาเราข้ามผ่าน 1 ช่วงชีวิตมนุษย์ ............ ผมว่า เรื่องนี้ใครยิ่งอายุเยอะ ยิ่งดีสนุกนะครับ ^^
ปีศาจที่กิโลเมตร ที่ 35 มันโหดจริงๆ นะครับ
ตอบลบมันบั่นทอนกำลังใจ เฮ้ย เรามาถูกทางหรือเปล่าหว่า
นี่เรากำลังทำอะไรอยู่กันเนี่ย ชีวิตแบบนี้ดีจริงหรือ
ไปต่อ หรือว่ายังไงดี ....
แต่หนังก็จงใจใส่อะไรเล็ก ๆ ให้เราเห็นนะครับ
ที่กิโลเมตรที่ 35 ไม่ว่าคุณจะตอบปีศาจไปว่าอะไร ลองมองที่พื้นสิครับ
มันเป็น ลายตารางพาด
แปลว่า "ห้ามหยุด"
สู้ต่อไปนะครับ ความสุขเราทุกคนอยุ่ที่ 7 ฟุตข้างหน้า
ฉันอยากวิ่งเเต่ไม่อยากเหนื่อย = อยากรักเเต่ไม่อยากเจ็บ
ตอบลบสุดยอดครับ ใส่ใจรายละเอียดจริงๆ ก็ชื่อเรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หนหนิเนอะ
ตอบลบ.....ว่าแต่ ถ้ามัน 7 หนตามชื่อหนัง ก็ขาดปีที่ 7 กับ 49 สิครับ
14(คู่แรก), 21/28(คู่สอง), 35(กม./ความหมายแฝง) 42.195(เส้นชัยในความหมายของการวิ่งมาราธอน)
ผมไม่ได้เขียนรีวิวอะไรอย่างนี้นานแล้ว แต่ดูเสร็จเมื่อคืน ต้องขอเขียน เพราะหนังเรื่องนี้ ถือเป็นอีกเรื่องที่ กล้าพูดได้ว่า ทำให้วงการภาพยนตร์ไทย ก้าวขึ้นอีกระดับ
ตอบลบคำถามสำคัญก่อนจะไปดูหนัง คุณคิดว่าหนังเรื่องนี้ นำเสนออะไร ปัญหาที่ตัวหนังต้องการสื่อคืออะไร - ถ้าตอบได้ ความคาดหวังในตัวหนังจะชัดเจน
สำหรับผม ก่อนเข้าโรง ไม่ได้ติดตามข่าวสารของหนังเรื่องนี้มากนัก แต่ก็พอรู้ว่า ต้องการสื่อถึง ความรัก 7 ปี ที่หลายๆ คนมักพูดว่า เป็นจุดเปลี่ยนของความรัก ใครก้าวผ่านอายุรักของตนเองในปีที่ 7 ไปได้ จะเป็นรักที่มั่นคง
สำหรับรัก 7 ปี ดี 7 หน สื่อความหมายได้ลึกซึ้งกว่านั่น โดยยังคงความ Feel Good และสนุกได้ตามแบบฉบับ GTH
หนังเปิดเรื่องมาเป็นบทนำที่ให้เรารู้ว่า ทั้งเรื่องนี้เขาต้องการจะสื่อถึง ความรักในแต่ละวัย ที่แตกต่างกัน แล้วจึงเข้าเรื่อง ที่ 1
************************************
รักวัย 14 - วัยที่ไม่รู้จักคิด
เรื่องของคู่รักวัยเรียนที่พบรักกัน มีความรักกันอย่างสดใส หนังแสดงให้เห็นมมุมสร้างสรรค์ต่างๆ ตามวัย ที่ดูแล้วคุณอาจนึกย้อนกลับไปว่า "ชีวิตตอนนี้ของเรา ใยขาดสีสันของความรักในวัยเด็ก" (บังเอิญว่าผมแต่งงานนานแล้วอะนะ 555)
หนังหยิบยกประเด็น วิถีชีวิตปัจจุบัน เด็กยุคเฟสบุ๊ค มาเพื่อสื่อความ "ปัญหาความรักในวัยเด็ก มักเกิดจากวัยวุฒิที่คาดความยั้งคิดยั้งทำ"
แม้ว่าตัวเอกชายจะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการ มีจุดมุ่งหมายที่ดี จนเราอาจเผลอมองตามไปว่า "เด็กคนนี้ก็คิดดี ทำดี เก่ง ฉลาด และสิ่งที่ทำก็มิได้เห็นว่าผิดมากมาย"
ผลงานระดับที่หนังนำเสนอ ถ้าผมรู้จัก ผมก็จะเรียกมาให้ทำงาน เลยทีเดียว ก็สมกับที่ภาพฝันในหนังได้นำเสนอไว้
แต่ด้วยความเป็นเด็ก และเป็นเด็กในโลกยุคที่ "ต้องการให้สังคมแคร์" และ การกด Like การแชร์ความรู้สึก สู่สาธารณะ โดยไม่ยั้งคิดถึงผลเสียที่จะตามมา
ประเด็นในหนังนั้น ดูแสนจะเบา หากเรามองด้วยความเคยชิน ใช้บรรทัดฐานของสังคมปัจจุบันที่มันเกือบเน่า (หรือเน่าไปแล้วหากเรายอมรับว่ามันมีอยู่จริง อย่าง คลิปเด็กตีกัน มีอะไรกันในโรงหนัง คลิปเด็กเอาเก้าอี้ฟาดแม่บ้าน)
ดังนั้นแม้ว่าคลิปที่ตัวเอกชายสรรค์สร้างขึ้นจะสวยงามแค่ไหน แต่มันแสนหนัก และมิอาจรับได้ ในความรู้สึกของตัวเอกหญิง
ในความใสๆ ของรักวัย 14 จบลงด้วยบทพูดที่อยู่ในตัวอย่างหนังแล้วที่ว่า
"พี่มีคนชอบตั้งเป็นหมื่น จะมาแคร์อะไรกับฉันคนเดียว"
ยิ่งตอกย้ำชัดเจนกับประเด็นที่ว่า "วัยนี้เป็นวัยที่ทำอะไรไม่ยั้งคิด"
ลองถามตัวเอง "ถ้าเราแคร์ใครจริงๆ เราจะคิดถึงคนๆ นั้น เราจะคิดทุกการกระทำของเราว่าจะส่งผลกระทบถึงคนๆ นั้นอย่างไร"
ดูหนังแล้วย้อนกลับมาดูตัวเองกันสักนิด "อยากให้สังคมแคร์ แต่ไม่เคยแคร์สังคม (คนรอบข้าง)" หรือเปล่า
****************
จุดสังเกตสนุกๆ
คุณอยากรู้ไหมว่า ตัวเอกชาย แคร์ ตัวเอกหญิง จริงๆ หรือเปล่า รักจริงๆ หรือเปล่า ลองจับบทพูด ตอนทะเลาะกันดีๆ แล้วคุณจะรู้คำตอบ
เรื่องที่ 2
ตอบลบรัก อายุ 7 ปี จาก 21 ถึง 28 : รักของจริง รักแท้ วิถีแห่งความรัก
หนังเรื่องที่ 2 นี้ เป็นหนังบอกเล่าเรื่องความรัก ของคนโตๆ คนเริ่มทำงาน คนทำงาน ช่วงชีวิตที่ อยากมีรักแท้ อยากมีรักที่จบสมบูรณ์
สำหรับตอนนี้ เล่ายังไง ก็สปอยล์ เพราะการนำเสนอแบบ Flashback ที่คอยตอบประเด็นต่างๆ จนจูงให้เราเข้าใจความรักอย่างแท้จริง
ตอนนี้เป็นตอนที่ดีที่สุดที่อธิบาย ปัญหาของความรัก เหตุแห่งการกระทำ
เหตุแห่งรักแรก เหตุแห่งความเปลี่ยนแปลง
ผมเล่ามิได้ เพราะเล่าแล้วสปอยล์แน่นอน
แค่บอกได้ว่า ข้อคิดดีๆ อยู่ในตอนนี้เพียบ มีฉากที่สื่อความหลายจุด ที่แทรกอยู่ในมุขตลก ล้อเล่นหนังของค่ายตัวเอง
ดูจบแล้ว ลองถามตัวเองสักครั้งว่า
"ปัญหาชีวิตรักของเรา ที่มักอ้างระยะเวลา 7 ปีนั้น แท้จริงแล้วปัญหาเกิดจากใคร"
รักที่เราคิดว่าไม่เปลี่ยนแปลง ความจริงแล้วมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นไปตามสังคม เป็นไปตามการเติบโตของเรา หากเรามัวแต่เพิกเฉยต่อปัจจัยรอบข้าง
โดยมิคิดว่าปัจจัยเล็กๆ น้อยๆ นั่น ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรม และการกระทำของเรา มัวแต่คิดโทษคู่รักของเราว่าเขาเปลี่ยนแปลง
จนเป็นเหตุให้รักของเราต้องเลิกรา
ลองฟังคำพูดในหนัง ที่ย้ำแล้วย้ำอีก (เหมือนจะบอกว่ามันสำคัญนะ) แล้วกลับไปคิดสักนิด
"ที่คุณเป็นอย่างนั้นก็เพราะฉัน"
ปัญหารักของคุณ เป็นอย่างนั้น ก็เพราะคุณหรือเปล่า (คุณทั้งคู่นั่นละ)
เรื่องที่ 3 ที่สุดของการสื่อความ ที่สุดของปรัชญาความรัก
ตอบลบ42.195
ตอนนี้มีฉากเชิงสัญลักษณ์มากมาย ใครที่เรียนสายวิเคราะห์หนังมา ตอนนี้น่าจะสนุก และยิ้มไปกับรายละเอียดที่หยอดเอาไว้
สำหรับตอนที่ 3 นี้ เป็นตอนที่ต้องการสื่อถึง การเริ่มต้นใหม่ของความรัก
ฉากเปิดที่สวยงามพร้อมด้วยเพลงที่ฟังแล้วจะเฉลย รายละเอียดลึกๆ ของตัวเอกหญิงที่จมปลักในความทุกข์ ไม่มีคนข้างกาย อยากจะหาใครสักคนมาข้างกาย แต่ไม่สามารถยอมรับได้
จนได้มาเจอกับ นิชคุณ (ตอนนี้แค่เข้าไปดู บอดี้ของนิชคุณก็กรี๊ดแล้ว ขนาดผมเป็นผู้ชาย ผมยังชอบนิชคุณเพิ่มขึ้นอีกขั้น)
ชายที่ทำให้รู้จักกีฬา วิ่งมาราธอน
ตอนนี้ผมอินมากหน่อย เพราะ หัวใจแท้ๆ ของมาราธอน เหมือนกัน การปั่นจักรยานทัวริ่ง (หรือทางไกลก็ได้) ที่ผมหลงรัก หลงปั่นอยู่
กีฬามาราธอนในมุมของคนส่วนใหญ่ ดูแล้วอาจจะไม่เข้าใจว่า คนปกติคนหนึ่งมันจะไปวิ่งทำไมให้เหนื่อย วิ่งทำไมกับระยะทางที่ไกลกว่ามนุษย์ทั่วไปควรจะวิ่ง แต่คนที่เข้าใจมาราธอน จะรู้ว่า เขาไม่ได้ลงแข่งเพื่ออะไร แต่ลงแข่งเพื่อแข่งกับตัวเอง เส้นชัยไม่ได้เป็นคนคนแรกที่เข้าถึง แต่มีเส้นชัยให้ทุกคน มีความยินดีให้ทุกคนที่เข้าเส้นชัยได้
เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือ การคิดที่จะลงแข่งมาราธอน
ถ้าคุณอยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร คุณต้องไปลองวิ่งดูจริงๆ ให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วคุณจะพบคำตอบ เหมือนเช่นที่นิชคุณ บอกไว้ในหนัง (เหมือนที่ผมพบในการปั่นจักรยานทางไกล)
"ถ้าคุณอยากจะวิ่ง คุณวิ่งแค่กิโลเดียวก็ได้ แต่ถ้าคุณอยากจะพบชีวิตใหม่ คุณต้องลองวิ่งมาราธอน"
หนังได้เปรียบเทียบการพบชีวิตใหม่ของนักวิ่งมาราธอน การแข่งกับตัวเอง แข่งกับเสียงคนรอบข้าง แข่งกับเสียงค้านของเพื่อน ก็เหมือนกับชีวิตการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่
ที่อาจต้องค้านเสียงคนรอบข้าง ค้านความรู้สึกตัวเอง ค้านแม้กระทั้งคำมั่นสัญญาที่ตัวเองเคยให้ไว้
ปัญหาความรักของหลายๆ คนส่วนใหญ่เกิดจากการยึดติด การไม่กล้าก้าวข้าม ก้าวผ่าน ปัญหาของความรัก
ถ้าไม่คิดจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ก็ต้องจมปลั่กกับชีวิตเดิมๆ ความทุกข์เดิมๆ
แต่เพราะชีวิต "เริ่มใหม่ได้ทุกวัน"
คุณกล้าที่จะเริ่ม ไหม กล้าที่จะวิ่งไหม กล้าที่จะยอมเหนื่อย และเหนื่อยกว่าเมื่อวาน เพื่อให้ร่างกายพัฒนาขึ้นไหม
ชีวิตก็เหมือนกัน ถ้าคุณไม่กล้าที่จะทำสิ่งที่ฝัน ไม่กล้าทำสิ่งที่ใจปรารถนา ไม่กล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ ชีวิตคุณก็จมปลักอยู่กับปัญหาเดิมๆ "ไม่พัฒนา"
ผมชอบตอนนี้เพราะสื่อสัญลักษณ์เชิงเปรียบเทียบเพียบไปหมด
***************
ฉากเชิงเปรียบเทียบ
อยากดูให้ลึก ลองถามตัวเองเหมือนที่ นางเอกถามพระเอกว่า คุณวิ่งสวนทางชาวบ้านเขาทำไม - คำตอบไม่ได้ผิวๆ แค่ ที่หนังบอก แต่สื่อลึกซึ้งยิ่งกว่านั่น
ปีศาจกิโลเมตรที่ 35 - คืออะไร (อันนี้ลึก ถ้าไม่เคยมีอารมณ์เดียวกับตัวละครอาจมองไม่ลึกถึง อยากรู้ต้องลองไปวิ่งจนถึงจุดที่ถามตัวเอง แบบที่ปีศาจถาม วิ่งทำไม จุดเปลี่ยนของชีวิตคุณ อยู่ที่การตอบคำถามนั่นของปีศาจ)
พระอาทิตย์ขึ้นที่ กม. ที่ 28 - ไม่ลงมือทำก็ไม่มีวันได้เห็น ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงก็ไม่มีวันพบกับโลกใหม่ ที่สวยงาม
ความเคยชิน กับการเปลี่ยนแปลง - ลองถามตัวเองว่าเหตุใดตัวเอกในตอนนี้ถึง ขึ้นบันได - "จงก้าวข้ามผ่านความเคยชิน แล้วจะพบว่าชีวิตมีทางเลือกที่มากกว่า"
****************************
และสุดท้าย หนังจบด้วยคำพูดที่สวยงาม ตอบโจทย์ Theme & Concept ของหนังอย่างชัดเจน
ไม่อยากเขียนในนี้ แต่อยากให้ไปดู
แล้วคิดตาม อย่าดูเรื่องนี้แค่ผิวๆ ของความรัก แต่ดูให้ลึกถึงแก่นแท้ของความรัก
แล้วคุณจะพบว่า คำพูดจบของหนัง ที่เกี่ยวกับเลข 7 นี้ มันลึกซึ้งจริงๆ
------------------------------------------------
ตอบลบการบ้านอยากดูให้ลึก
ส่วนใหญ่จะเริ่ม ตอนที่ 2 และ 3 เพราะหนังปูไว้ถึงความลึก เรียงลำดับตามการเติบโตของความรัก ดังนั้นตอนที่ 1 จะดูได้ง่าย และเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนอะไร แต่เริ่มตอน 2 และ 3 ต้องเริ่มจับประเด็น จับฉากต่างๆ มาเปรียบเทียบ แล้วจะอิน แล้วจะบอกว่ามันเจ๋งขึ้นนะหนังไทย
1. ตู้ปลา กับรักแท้ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง - คุณเห็นอะไร ใครทำลายความรัก ใครมีความรักจริง ใครรักไม่เคยเปลี่ยนแปลง
2. คริส ร้องไห้เพราะอะไรในตู้ปลา ตอบได้หรือไม่
3. "เราจะกลับมารักกันอีกครั้งได้ไหม" ปรากฎในสองฉากสำคัญ ที่มีตัวแปรที่แตกต่างกัน แล้วคุณจะเข้าใจความรักของคนที่โตแล้วมากขึ้น
4. ทำไมทั้งสองคนถึงวิ่งสวนทางชาวบ้าน เพราะอะไร
5. บทพูดมากมายของเสียงพากย์ นั่นสำคัญ เหตุใดถึงใช้วิธีนี้ในการเล่าเรื่อง เล่าความคิดของตัวละคร
6. เหตุใด ตัวละครของคุณสู่ขวัญ ถึง เก็บเบอร์ของนิชคุณไว้ โดยการเมมว่า Finisher มันสื่อถึงอะไร
7. ตัวละครของคุณสู่ขวัญ รังเกียจความสกปรกทุกอย่าง อย่างชัดเจน เหตุใดถึงเก็บรองเท้าเน่าๆ ไว้
8. สีของเสื้อที่วิ่ง (จริงๆ อาจไม่ได้สื่ออะไร) แต่ครูผมบอกว่า เสื้อผ้าในหนังสื่อความหมายเสมอ ถ้าคนทำหนัง เป็นคนทำหนังจริงๆ ) ดังนั้น สีของเสื้อที่วิ่งมีความหมายแน่นอน ลองไปดู
สุดยอดเลยค่ะหนังเรื่องนี้
ตอบลบเป็น 1 ในไม่กี่เรื่องที่ดูจบแล้วอยากดูอีก
เพิ่งดูไปเมื่อคืน วันนี้ก็อยากดูอีกแล้ว หนังให้อะไรเยอะจริงๆค่ะ
ไปดูมาแล้วครับ ชอบๆ พออ่านยิ่งได้คิดอะไรลึกซึ้งจริงๆ
ตอบลบตอน 1 ไม่มีกระแทกใจเท่าไร แต่สะท้อนสังคมที่เล่น fc,load ภาพลง FC IGตลอดจน ลืมคนใกล้ตัวไป
ตอบลบตอน 2 sunny+chis น่ารัก มาก เคมีเข้ากันดี ฉากทะเลาะกันแรงมาก....
ชอบตอน 3 ที่สุดเลย รอดูผลงานพี่เก้งมานาน แต่ไม่ผิดหวัง ดูไปน้ำตาไหลไปตอนที่ หล่อนรู้สึกผิดที่จะลืมสามีไป นิชคุณก็น่ารักมากๆๆๆๆ แต่ถ้าดูแล้วคิดมันเต็มไปด้วยกำลังใจดี, การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ๆๆ แต่แอบพูดไม่ชัดนิดส์นึง แต่จบดีอ่ะ
ชอบพาร์ทสุดท้ายที่สุดค่ะ อาจเพราะอายุเท่านางเอกพอดี แถมชอบน้องคุณอีก แต่จริงๆแล้วชอบบทหนังที่สุดค่ะ หนังฝากอะไรให้คิดเยอะเลย ไม่เครียดเกิน ไม่ดราม่าไป แต่เรียกน้ำตาได้ทีเดียว แถมจบแบบฟิลกู๊ดจริงๆ ขอชมคุณสู่ขวัญกับน้องคุณจริงๆค่ะ เวลาแสดงลืมไปเลยว่าคือสู่ขวัญและนิชคุณ เห็นแต่ หล่อน และ เขา จริงๆ เป็นเคมีที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่กลับเข้ากันได้สุดๆเลย ต้องกลับไปดูซ้ำแน่ๆค่ะ
ตอบลบเรางงหมือนกันนะ ตอนสองเราว่าลึกเหมือนกัน ซันนี่อย่าเยอะ 555 ตอนคริสร้องไห้ในตู้ปลาอ่ะ โหย ทำกันได้ลงคอนะเธอ ตอนท่องบทกันอ่ะ มันอินมากกกกกกกก น้ำตาซึมหลายครั้ง 5555 !!?? ตอนจบจบได้น่ารักมากๆเรื่องนี้ ฟินที่สุด 555
ตอบลบพอมาดูตอนสาม ตอนที่คุณสู่ขวัญโทรศัพท์หาสามี แบบว่ามันมีช่วงให้คนดูได้คิดตามด้วย เฮ้ยชอบ ไม่ต้องรีบ ค่อยๆขับเคลื่อนกันไป ตอนนี้ก็แหล่มมากๆ ส่วนนิชคุณชอบหลายตอนนะ สายตาดูดีมากๆ ทำให้เราจับตามองนิชคุณอย่างไม่เบื่อเลย เฝ้ารอเวลาที่จะปรากฏตัวของเค้า คณสู่ขวัญก็เหมือนกัน แสดงเป็นธรรมชาติมาก สรุปแล้วชอบ แต่รายละเอียดปีกย่อยขอดูรอบที่สองก่อนนะคะ ^__^ เราว่าดูง่ายกว่าที่คิด แต่แฝงด้วยความลึกที่อาจจะทำให้หัวใจของคนดูพองโตขึ้นได้หลังจากดูหนังจบไปอีกนาน
เรื่องแรก รักมีปัญหา เพราะไม่ยั้งคิด
ตอบลบเรื่องที่สอง รักมีปัญหา เพราะไม่รู้จักคิด ว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร
เรื่องสุดท้าย รักมีปัญหาที่ไม่อาจแก้ไขได้ ก็ต้องรู้จักปล่อยวาง และเริ่มต้นใหม่
แต่ทุกเรื่องก็ไปในทางเดียวกัน คือ
ตลอดทุกช่วงชีวิต คือ การเปลี่ยนแปลง จงยอมรับ พัฒนาและก้าวต่อไปอย่างมีความสุข
เรื่องแรก มุมกล้องอาจดูแปลกๆ เราแอบคิดป่วนนี่แอบคล้ายๆเราบางจุดเลยนะ555 ถ่ายรูปตอนจะกินเนี่ย
ตอบลบเรื่องสอง ทั้งสองคนเล่นเข้าขานะคะ ตอนทะเลาะกันนี่แรงมากก
เรื่อง 3 เราชอบมากที่สุด เราคิดว่ามันมีอะไรแฝงเยอะ แต่บางครั้งมัวแต่มองหน้านิชคุณ 55
เราชอบเรื่องสามที่สุด เพราะนอกจากคำพูด การแสดงแล้ว สิ่งของที่อยู่ในฉากก็ทำให้เราคิดได้
ตอบลบถึงแม้จะมีคนบอกว่าไม่สนุก แต่เราชอบมากเลยนะ ด้วยความที่ชอบหนังอุ่นๆ ออกมาแล้วอยากกลับเข้าไปดูอีก
สำหรับที่ไม่เคยออกกำลังกาย ฮา เราตีความเรื่อง3เป็นอีกอย่างนึง
การวิ่งมาราธอนก็เหมือนชีวิต จุดหมายที่เราตั้งเป้าไว้ แล้วอยากไปให้ถึง
ปีศาจกิโลเมตรที่35 ก็เหมือนก่อนถึงเราจะถึงจุดหมายปลายทางของเรา ก็ต้องมีอุปสรรคมาขวางกั้นเสมอ
อุปสรรคที่ยากลำบากถึงขนาดให้เราเลิกและหยุดที่จะทำ ที่ปีศาจถามเราก็เหมือนว่า เราจะเดินต่อไป หรือเราจะหยุดเพียงเท่านี้
การวิ่งมาราธอนที่ไม่เตรียมตัว แล้วสุดท้ายก็ไปไม่ถึง เปรียบกับ ชีวิตต้องผ่านอะไรมากมายกว่าถึงสิ่งที่หวัง ไม่ใช่อยู่ดีๆก็ได้มาง่ายๆ
เราชอบการแสดงของคุณสู่ขวัญมากค่ะ ทั้งอารมณ์ คำพูด ทุกๆอย่าง
ส่วนพี่คุณ อาจจะแข็งไปหน่อย แต่ได้อารมณ์เด็กธรรมดาคนนึงที่อยากต่อสู้ ทำตามเป้าหมายของตน และพยายามชนะขีดจำกัดของตนให้ได้
เป็นเรื่องที่ไม่เศร้า ไม่ได้มีบทซึ้ง แต่เราร้องไห้ แล้วถามตัวเองว่า "กำลังทำอะไรอยู่"เลยค่ะ
สุดท้ายนี้ดูแล้ว เราอยากออกไปวิ่งค่ะ ไม่ใช่วิ่งมาราธอน แต่ออกวิ่งไปตามความฝัน แล้วไปให้ถึงเป้าหมายของตนเอง:)
ไปดูมาเมื่อวานค่ะ ชอบมากๆ
ตอบลบ14 เนื้อเรื่องกระทบตัวเองเบาๆในบางช่วง 5555
21/28 เราแอบน้ำตาซึมกับเรื่องนี้ ชอบการแสดงของซันนี่มาก โดยเฉพาะพุง #ห๊ะ
42.195 การนำเสนอเรื่องราวแปลกใหม่ดี ข้อคิดเยอะมากกก คุณสู่ขวัญแสดงดีเกินคาด พี่คุณก็น่ารักมากๆ
รับรองเรื่องนี้ไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะ อยากให้ทุกคนได้ไปดูนะคะ^^
วันอาทิตย์นี้เราจะไปดูรอบสองค่ะ จะไป "ดูให้ลึก" อีกรอบ อิอิ><
เรียงลำดับความชอบเลยนะ
ตอบลบ42.195 > 21/28 > 14
ชอบพาร์ทสู่ขวัญนิชคุณมากที่สุด คุณสู่ขวัญแสดงได้เป็นธรรมชาติมาก ดูแล้วชอบเค้าเลยอะ เป็นผู้หญิงที่ดูดีมากจริงๆ
หนังมันไม่ได้สวีทหวานเยิ้ม ไม่ได้ฮาก๊ากหรือเศร้ารันทดจนน้ำตาไหล แต่ดูแล้วมันมีความสุข ได้อมยิ้มนิดๆตลอดทั้งเรื่อง
พาร์ทนี้มันเหมาะกับวัยผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ชีวิตนะ ถ้าเด็กๆวัยรุ่นมาดู อาจจะยังไม่เก็ทจนพาลเบื่อเลยก็ได้
อยากบอกแฟนคลับนิชคุณนิดนึงว่า ถ้าจะมาดูหนังเรื่องนี้ เพราะอยากดูแต่หน้านิชคุณล่ะก็ คุณคงผิดหวังอะค่ะ
เพราะ 42.195 คือเรื่องราวของผู้หญิงวัย 42 คนหนึ่งที่เพิ่งจะผ่านเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตมา
มันไม่ใช่หนังรักแต่มันเป็นหนังที่สร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตค่ะ